เหรียญอาร์ม ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงผนวช หลังพระพุทธชินราช กองทัพภาค ๓ จัดสร้าง ปี ๒๕๑๗ เนื้อนวะ กล่องเดิม หมายเลข ๒๘๒๑ เป็นเนื้อที่หายาก พิมพ์เล็ก ขนาดเหรียญกว้าง ๒ ซม.สูงรวมห่วง ๓.๕ ซม.พิธีปลุกเสกยิ่งใหญ่ ในหลวงรัชกาลที่๙ทรงเสด็จเททอง

เหรียญอาร์ม ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงผนวช หลังพระพุทธชินราช กองทัพภาค ๓ จัดสร้าง ปี ๒๕๑๗ ใช้มวลสารเดียวกันกับพระกริ่งพระพุทธชินราช ภปร กองทัพภาคที่ ๓ จัดสร้าง

รุ่นนี้กองทัพภาค ๓ จัดสร้าง ปี ๒๕๑๗ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเสด็จประกอบพิธีเททอง ณ. วัดสุทัศน์ฯและมีพิธีพุทธาภิเษกอย่างยิ่งใหญ่ถึง ๒ ครั้ง

ครั้งแรกที่ วัดสุทัศน์ฯกรุงเทพฯ
ครั้งที่สอง ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ พระวิหารหลวงพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลกถือเป็นพิธีพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งของวัดศรีรัตนมหาธาตุฯ จังหวัดพิษณุโลก

ในพิธีครั้งนั้นมีสร้างพระอีกหลายแบบเช่นเหรียญในหลวงทรงผนวช เหรียญพระพุทธชินราช เหรียญพระนเรศวรหลังพระเอกาทศรถ และ พระบูชา เป็นต้น

โดยในพิธีการจัดสร้างได้รวบรวมมวลสารชนวนที่เป็นของพระเกจิดังๆ นำมาหล่อซึ่งมีจำนวนมากมาย ที่ฐานพระกริ่งพระพุทธชินราชทรงได้พระราชทานราชานุญาติให้ใช้อักษรย่อ ภปร. เป็นครั้งแรกซึ่งถือว่าเป็นมงคลยิ่ง

วัตถุมงคล ทั้งหมดได้ทำการตกแต่งเพื่อความสวยงาม "ร่วม ๑ ปี" จึงแล้วเสร็จ

จากนั้น พลโทสำราญ แพทย์กุล แม่ทัพภาคที่ ๓ จึงได้อัญเชิญไปประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ วิหารหลวงพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม  ๒๕๑๗โดยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชอ(วาสนมหาเถระ) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทรงประกอบพิธีจุดเทียนชัยมหาพุทธาภิเษก และมี "พระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณ" ร่วมพิธีพุทธาภิเษกจำนวน ๔๕ รูป อาทิ

๑.พระภาวนาโกศลเถระ วัดปากน้ำภาษีเจริญ

๒.พระโพธิวรคุณ(ไพฑูรย์) วัดโพธิ์นิมิต

๓.พระราชมุนี(มหาบุญโฮม) วัดปทุมวนาราม

๔.พระสังวรวิมลเถระ(หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี

๕.พระครูพิพิธวิหารการ(หลวงพ่อเทียม) วักษัตราธิราช

๖.พระครูรักขิตวันมุนี(หลวงพ่อถิร) วัดป่าเลไลย์

๗.พระครูญาณวิจักษ์(พระอาจารย์ผ่องจินดา) วัดจักรวรรดิราชาวาส

๘.พระครูนนทกิจวิมล(หลวงพ่อชื่น) วัดตำหนักเหนือ

๙.พระครูกิตตินนทคุณ(หลวงพ่อกี๋) วัดหูช้าง

๑o.พระครูโกวิทสมุทรคุณ(หลวงพ่อเนื่อง) วัดจุฬามณี

๑๑.พระครูสุตาธิการี(หลวงพ่อทองอยู่) วัดใหม่หนองพะอง

๑๒.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง

๑๓.หลวงพ่ออุตมะ วัดวังวิเวการาม

๑๔.หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู

๑๕.หลวงพ่อนอ วัดท่าเรือ

๑๖.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม

๑๗.หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ เป็นต้น

ประวัติการสร้าง

เหรียญในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงผนวช หลังพระพุทธชินราช กองทัพภาค ๓ จัดสร้าง ปี ๒๕๑๗ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ พล.ท.สำราญแพทยกุล แม่ทัพภาคที่ ๓ จัดสร้างวัตถุมงคล พระพุทธชินราชภปร ขึ้นเป็นครั้งแรกและทรงเสด็จพระราชดำเนิน พร้อม สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงเททองหล่อพระพุทธชินราช ภปร ณ มณฑลพิธีวัดสุทัศนเทพวรารามฯ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๑๖ เวลา ๑๖.๔๙ น. โดยมี สมเด็จพระสังฆราช(ปุ่น) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามเป็นประธานสงฆ์ และประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๑๗ พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณแห่งยุคนั้นจำนวน ๔๕ รูป นั่งปรก

วัตถุมงคล พระพุทธชินราชภปร รุ่นแรก ประกอบด้วย

 ๑.พระพุทธชินราชภปร.ขนาดบูชา๕ นิ้ว และ ๙ นิ้ว ลงรักปิดทอง ฐานหลัง ตรากองทัพภาคที่ ๓ จ.ส.อ.ดร.ทวี บูรณะเขต์ เป็นประติมากรช่างหล่อ

๒.พระกริ่งพระพุทธชินราช ภปร เนื้อทองคำ เนื้อเงิน และเนื้อนวโลหะ (เบอร์แกะสลัก)

๓.เหรียญพระพุทธชินราชหลังอักษรพระปรมาภิไธย ภปร (เหรียญอาร์ม) เนื้อทองคำ เนื้อเงินเนื้ออัลปาก้า เนื้อทองแดง

๔.เหรียญในหลวงทรงพระผนวชหลังอักษรพระปรมาภิไธยภปร (เหรียญอาร์ม) เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้ออัลปาก้า เนื้อทองแดง (เหรียญเนื้อทองคำเป็นเหรียญอาร์มพิมพ์เล็ก เหรียญเนื้อเงิน เป็นพิมพ์กลาง ส่วนเหรียญทองแดง และอัลปาก้า เป็นเหรียญพิมพ์ใหญ่)

๕.เหรียญพระพุทธชินราช ด้านหลังพระบรมรูป ในหลวงทรงพระผนวชเนื้อนวโลหะ(เบอร์แกะพิมพ์เล็ก) เป็น (เหรียญแจกกรรมการจัดสร้าง) และด้วยพระบารมีปกเกล้าของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช(ภูมิพลอดุลยเดช หมายถึง ผู้ทรงกำลังอำนาจ ไม่มีอะไรเทียบในแผ่นดิน) พระผู้ทรงเป็นกำลังของแผ่นดิน พระผู้ทรงปกครองแผ่นดินโดยธรรมทรงเป็นธรรมราชาผู้ยิ่งใหญ่) จึงถือว่า เป็นมหามงคลแก่ผู้มีไว้สักการบูชาเป็นยิ่งนัก

จัดเป็นพระพิธีดีที่มีประสบการณ์ทางด้านแคล้วคลาดสูงมากๆขณะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯรัชกาลที่๙และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงประกอบพิธีเททอง ณ บริเวณมณฑลพิธีด้านข้างพระอุโบสถ อากาศก็ร่มเย็นแจ่มใสให้ผู้ไปร่วมพิธี และพสกนิกรที่ไปเข้าเฝ้าครั้งนั้น เย็นสบายไปโดยทั่วกัน แต่ขณะเดียวกันกลับปรากฎเหตุ "ท้องฟ้าทางภาคเหนือ" (ตรงจุดที่ตั้งกองทัพภาคที่ ๓) เกิดมี "ฟ้าแลบฟ้าร้อง" ดังสนั่นหวั่นไหวอยู่ตลอดเวลา กระทั่งพิธีเททองเสร็จสิ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯกลับแล้ว "ฟ้าแลบฟ้าร้อง" จึงสงบลงและพอถึงเวลา ๑๗.๕๕ น. "พระวิสุทธิวงศาจารย์" (เสงี่ยม จันทสิริมหาเถระ) เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ฯ ในขณะนั้น(ภายหลังได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จ พระราชาคณะที่ โฆษาจารย์) ดับเทียนชัยพิธีพุทธาภิเษกแล้ว ยังได้มอบเงิน ๕,ooo บาท" เพื่อสมทบทุนมูลนิธิ "เย็นศิริเพราะพระบริบาล" อีกด้วย พร้อมๆกับ "สายฝน" ได้ตกลงมาอย่างหนักจนน้ำนองรอบๆระเบียงพระอุโบสถ ทั้งๆที่บริเวณอื่นที่อยู่ใกล้เคียง "วัดสุทัศน์" กลับมีตกเพียงประปรายเท่านั้น นับเป็นปรากฎการณ์ที่อัศจรรย์แก่ผู้ไปร่วมพิธี.

ขอขอบคุณทุกแหล่งที่มา
Amuletstores.com